RSV โรคร้ายที่คุณพ่อคุณแม่ควรเฝ้าระวัง
ไวรัสอาร์เอสวี เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ เชื้อนี้เป็นสาเหตุที่พบบ่อยของการติดเชื้อในระบบหายใจส่วนล่างในทารกและเด็ก ปัจจุบันยังไม่มียารักษา หรือวัคซีนป้องกัน การรักษาทำได้โดยการประคับประคองอาการ และการให้ออกซิเจน
การติดเชื้อไวรัส RSV เกิดจากการสัมผัส สารคัดหลั่งของผู้ที่ติดเชื้อเป็นหลัก โดยเฉพาะไวรัสเข้าสู่ร่างกาย ผ่านทางตา จมูก ปาก และสามารถแพร่กระจายได้ผ่านทางการไอ หรือจามอีกด้วย
กลุ่มเสี่ยงที่จะมีโอกาสติดเชื้อไวรัส RSV
– เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 3 ปี
– ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
– ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับปอดและหัวใจ
– ผู้ที่อยู่ในชุมชนแออัด
อาการเมื่อติดเชื้อไวรัส RSV ผู้ป่วยจะมีอาการแสดงคล้ายหวัด ในระยะเวลา 4-6 วัน
- มีไข้สูง
- มีน้ำมูก
- คัดจมูก
- ปวดศีรษะ
- ไอ เจ็บคอ
- เสมหะปริมาณมากและเหนียวข้น
- เบื่ออาหาร
- อาเจียน
เด็กเล็กและทารกมีการติดเชื้อ RSV อาจมีอาการรุนแรงกว่า
- หายใจเร็วกว่าปกติ
- หายใจลำบาก จนถึงหายใจล้มเหลว
- หงุดหงิดง่าย / งอแงผิดปกติ
- ซึม หมดสติ
การรักษาและการป้องกัน
ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคติดเชื้อ RSV โดยตรง ส่วนมากแล้วจะใช้วิธีรักษาตามอาการเหมือนกับอาการไข้หวัดทั่วไป เช่นยาลดไข้ เช็ดตัว ยาลดน้ำมูก ยาละลายเสมหะ เป็นต้น แต่หากมีอาการที่รุนแรงก็อาจต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เพื่อติดตามอาการ ดูดเสมหะ เคาะปอด และเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนของทางเดินหายใจต่อไป
วิธีป้องกัน
- ให้ลูกล้างมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะก่อนสัมผัส ตา จมูก ปาก
- ทำความสะอาดที่อยู่อาศัยอยู่เสมอ โดยเฉพาะกระดาษชำระที่ใช้แล้ว ควรทิ้งลงถังขยะที่ปิดมิดชิด
- หากมีการติดเชื้อหรือมีอาการ ควรให้ลูกสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
- ไม่ควรให้ลูกใช้ของร่วมกับผู้อื่น
- คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรสูบบุหรี่ เนื่องจากจะมีความเสี่ยงสูงที่ลูกจะติดเชื้อไวรัส RSV และอาจมีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้เช่นกัน
- ให้ลูกทานอาหารที่ประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และพาไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี
- ทำความสะอาดของเล่นทุกวันด้วยน้ำสบู่ และผึ่งจนแห้ง
- แจ้งโรงเรียน หรือ สถานรับเลี้ยงเด็กอ่อน เพื่อปิดทำความสะอาดในกรณีมีผู้ป่วยจำนวนมาก