โรคที่ไม่คุ้นหูแต่อาจจะเคยได้ยินข่าวเด็กเล็กป่วยเป็นโรคนี้อยู่บ่อยครั้ง รู้หรือไม่ว่าเป็นวัยผู้ใหญ่ ก็สามารถเป็นได้โดยเฉพาะในวัยผู้สูงอายุโรคนี้อาจมีผลกระทบรุนแรงมาก
- สาเหตุและอาการของโรค RSV
- ภาวะแทรกซ้อน RSV ในผู้สูงอายุ
- วัคซีนป้องกันโรค RSV ประสิทธิผลสูงถึง 77-83% ในคนที่อายุ>60ปีในปีแรก 56-48% ในปีที่2 และ3 ตามลำดับ
- วัคซีนป้องกันโรค RSV ประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่างสูงถึง90%ในปีแรก
สาเหตุของโรค RSV
ไวรัส RSV เป็นไวรัสที่แพร่กระจายได้ง่ายผ่านละอองฝอยจากการไอหรือจาม ไวรัสนี้สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านทางจมูก ปาก หรือดวงตา โดยเกิดได้จากการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อหรือสัมผัสเชื้อได้โดยตรงจากการจับมือหรือเมื่อบุคคลสัมผัสกับพื้นผิวที่มีไวรัสและนำมือมาสัมผัสใบหน้าหรือรับประทานอาหารที่ปนเปื้อน เชื้อไวรัสนี้สามารถติดต่อได้ง่ายในสภาพแวดล้อมที่มีคนอยู่หนาแน่นได้เช่นเดียวกัน เพราะเป็นไวรัสที่สามารถอยู่บนพื้นผิวต่างๆได้นานหลายชั่วโมง และแพร่กระจายได้ง่ายผ่านการไอหรือจาม
โรค RSV (Respiratory Syncytial Virus)
เป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก แต่ปัจจุบันพบว่าไวรัสชนิดนี้สามารถส่งผลกระทบต่อผู้สูงอายุและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแออย่างรุนแรงเช่นกัน
อาการของโรค RSV
ผู้สูงอายุและกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัวนั้นเสี่ยงต่อการเป็น RSV รุนแรงได้ง่ายกว่าคนทั่วไป โดยส่วนใหญ่อาการของ RSV จะมีลักษณะคล้ายกับอาการของหวัดใหญ่ สามารถสังเกตอาการของตนเองได้ดังนี้
- มีไข้
- ไอเรื้อรัง
- หายใจลำบาก
- หายใจสั้นและเร็ว
- เสมหะมากขึ้น
- เหนื่อยล้าและอ่อนแรง
สำหรับผู้ใหญ่ที่ป่วยเป็นโรค RSV มักจะมีอาการระยะสั้นไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ แต่ถ้าหากเกิดภาวะแทรกซ้อนภาวะหลังติดเชื้อไวรัส(Post viral syndrome) อาจทำให้มีอาการไอต่อเนื่องเป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือนได้ ในกรณี RSV รุนแรงอาจมีฝีที่ปอด ปอดอักเสบ และเสียชีวิตได้
การแพร่กระจาย
RSV สามารถแพร่กระจายได้ง่ายผ่านละอองฝอยจากการไอหรือจามของผู้ติดเชื้อ รวมถึงการสัมผัสพื้นผิวที่มีเชื้อไวรัสติดอยู่ เช่น มือหรือของใช้ส่วนตัว
ความเสี่ยงสำหรับผู้สูงอายุ
- ระบบภูมิคุ้มกันของผู้สูงอายุมีความอ่อนแอกว่า ทำให้ติดเชื้อได้ง่ายและมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวม
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคปอด หรือโรคเบาหวาน โรคอ้วนรุนแรงมีความเสี่ยงต่ออาการรุนแรงมากขึ้น
ความร้ายแรงของโรค RSV ในผู้สูงอายุ
สำหรับผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะมีระบบภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรงเมื่อเทียบเท่ากับวัยหนุ่มสาว ทำให้มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ RSV ได้ง่ายกว่าวัยอื่นๆ และอาจนำไปสู่โรคร้ายแรงอื่นๆได้ด้วย นอกจากนี้ หากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัวอื่นหรือระบบภูมิกันอ่อนแอ ๆ ร่วมด้วย ก็อาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ หรือภาวะหายใจล้มเหลว
เมื่อได้รับเชื้อ RSV อาจทำให้สุขภาพหรืออาการของโรคก็จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นไปอีก
เพราะฉะนั้นการดูแลสุขภาพและการป้องกันการติดเชื้อจึงเป็นสิ่งสำคัญ
วิธีการรักษาและการป้องกัน และวัคซีน RSV
เบื้องต้นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าโรค RSV เป็นโรคิดเชื้อที่ถึงแม้หายแล้วก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก เพราะภูมิคุ้มกันอยู่ได้ไม่นาน สามารถแพร่กระจายจากเด็กเล็กให้ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ รวมไปถึงคนที่มีโรคประจำตัวโรคปอด โรคหัวใจ และภูมิคุ้มกันต่ำ ก็สามารถป่วยหนักถึงขั้นเสียชีวิตได้
ปัจจุบันมี วัคซีน RSV ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงการติดเชื้อและความรุนแรงของโรค RSV และโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ได้โดยตรง ซึ่งมีทั้งวัคซีนสำหรับเด็ก และวัคซีนสำหรับผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในผู้ที่อายุ>75ปี
การฉีดวัคซีน RSV แนะนำให้ฉีดควบคู่ไปกับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้ออื่นๆ ที่สำคัญ เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนปอดอักเสบ วัคซีนงูสวัด ก็จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสอื่น ๆ ที่อาจทำให้ร่างกายอ่อนแอลงได้
โดยระยะเวลาในการรักษาของแต่ละคนขึ้นกับความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 1-2 สัปดาห์
สำหรับการป้องกันการติดเชื้อ RSV อื่นๆ ก็คือ การเริ่มต้นป้องกันได้ด้วยตัวเอง อย่างการล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลอยู่เสมอ หรือ ใส่หน้ากากอนามัยเป็นประจำ และ รักษาความสะอาดทำความสะอาดของเล่นเด็กบ่อยๆ หรือหากมีคนในบ้านป่วยควรแยกและงดใช้ของส่วนตัวร่วมกัน รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ร่วมไปกับการพักผ่อนให้เพียงพอก็เป็นอีกตัวช่วยที่สำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง
ในผู้สูงอายุและเด็กเล็ก หากมีอาการป่วย ควรสังเกตอาการของตนเองเพราะถ้าปล่อยไว้อาจเกิดผลกระทบรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ การตรวจเบื้องต้นจะช่วยให้สามารถยแกผู้ป่วยออกจากบุคคลอื่นๆได้เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค การป้องกันและการรักษาให้ทันท่วงทีจะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคอื่นๆที่ตามมาได้
วัคซีน RSV คืออะไร?
วัคซีนอาร์เอสวี (Respiratory syncytial virus Respiratory syncytial virus; RSV) “Arexvy” ใช้สำหรับกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันโรคทางเดินหายใจส่วนล่าง (Lower Respiratory Tract Disease; LRTD) ที่มีสาเหตุมาจาก respiratory syncytial virus ซึ่งผลของวัคซีนจะช่วยทำให้ลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยรุนแรงจากการติดเชื้อได้ โดยฉีดเพียง 1 เข็ม เท่านั้น
เนื่องจากเชื้อ RSV อาจมีผลทำให้อาการหอบหืดกำเริบได้ และในเด็กเล็กหรือผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อนี้อาจมีอาการปอดอักเสบรุนแรง ดังนั้นสำหรับคนไข้โรคหืดและปอดเรื้อรังสามารถให้ได้ตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไป สำหรับผู้สูงอายุทั่วไปสามารถให้ได้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป โดยฉีดเพียงเข็มเดียว สำหรับปัจจัยเสี่ยงอื่นๆต่อการติดเชื้อ RSV ได้แก่ การมีโรคประจำตัวอื่นๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไต โรคตับ โรคเลือด ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ประสิทธิภาพของวัคซีน
- จากการศึกษาในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป พบว่า ประสิทธิภาพต่อการป้องกันโรคทางเดินหายใจส่วนล่าง ที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ RSV ครั้งแรกโดยเริ่มตั้งแต่ 15 วัน หลังฉีดวัคซีนอยู่ที่ 82.6% (ความเชื่อมั่น 96.95% ระหว่าง 57.9% ถึง 94.1%) และวัคซีนยังมีประสิทธิภาพต่อ RSV-LRTD ตลอดระยะเวลาติดตามผล พบว่าประสิทธิภาพของวัคซีนต่อการป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับเชื้อ RSV-A และ RSV-B อยู่ที่ 84.6% และ 80.9% ตามลำดับ
- สำหรับการสร้างภูมิคุ้มกันในผู้ใหญ่ที่มีอายุ 50 ถึง 59 ปีที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นต่อโรคที่เกิดจาก RSV ประสิทธิภาพของวัคซีนในการกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันต่อ RSV-A และ RSV-B อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ด้อยกว่า ซึ่งประสิทธิภาพของวัคซีนได้รับการยืนยันแล้ว
ข้อแนะนำในการฉีดวัคซีน RSV
- ควรพักดูอาการเพื่อสังเกตอาการแพ้หลังการฉีดวัคซีน
- ควรเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปในผู้ที่มีไข้สูงอย่างเฉียบพลันรุนแรง แต่ไม่จำาเป็นต้องเลื่อนการฉีดวัคซีนในกรณีที่มีการติดเชื้อเล็กน้อย เช่น ไข้หวัด
- ควรสังเกตปฏิกิริยาที่เกี่ยวข้องกับความวิตกกังวล รวมถึงอาการหมดสติ(เป็นลม) การหายใจหอบถี่ หรือปฏิกิริยาที่เกี่ยวข้องกับความเครียดที่อาจเกิดขึ้นในขั้นตอนการฉีดวัคซีน ดังนั้น ต้องระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บจากการเป็นลม
บทความโดยนายแพทย์ ชลทรัพย์ แชมาร์ แพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ การเดินทางและท่องเที่ยวและอายุรศาสตร์เขตร้อน โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์
แพ็กเกจแนะนำ
บทความสุขภาพอื่นๆ
VDO ความรู้สุขภาพ
บทความโดย
นายแพทย์ ชลทรัพย์ แชมาร์
แพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ การเดินทางและท่องเที่ยวและอายุรศาสตร์เขตร้อน โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม/นัดหมาย
แผนกตรวจสุขภาพ ชั้น 2
โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์
โทร. 02-594-0020 ต่อ 1276 , 1277